Posts

Showing posts from April, 2007

มนุษย์

Image
มนุษย์เพิ่งจะเป็นเด็กทารก แต่กลับทุบตีคุณทวดภูเขา ใบหน้าท่านจึงมีริ้วรอยโศกเศร้า มนุษย์เพิ่งจะหัดคว่ำ แต่กลับฉี่รดคุณยายแม่น้ำ ร่างกายของท่านจึงเน่าเหม็น มนุษย์เพิ่งจะหัดคลาน แต่กลับถอนผมของคุณตาแผ่นดินมาขว้างเล่น ศีรษะของท่านจึงเตียนโล้น มนุษย์เพิ่งจะหัดนั่ง แต่กลับขว้างปาคุณน้าดวงจันทร์คุณอาดวงดาว ดาวจึงตกลงทีละดวง ทีละดวง มนุษย์เพิ่งจะหัดเดิน แต่กลับล่ามโซ่ตรวน ให้คุณลุงช้างคุณป้านกกระเรียน ท่านจึงลืมเลือนรอยยิ้มไปแล้ว มนุษย์เพิ่งจะหัดวิ่ง แต่เอื้อมมือไปหยิบกินคุณพ่อดวงอาทิตย์ และกำลังตัดท้องฟ้า ใครหนอ...ขโมยความดีงามของมนุษย์ไป

เทือกเขา

Image
เทือกเขายามเย็น ละเมอในความป่วยไข้ของค่ำคืน คิดถึง คิดถึง คิดถึง เวลาเช้า

ประเทศไทย

Image
ประเทศไทย หัวใจวายเมื่อเช้านี้ เหมือนคนจรจัดข้างถนน โดยไม่มีการไว้อาลัย โดยไม่มีการเอาใจใส่ ระหว่างกระบวนการคิดแตกแยก กลางธรรมเนียมใหม่ซึ่งบิดเบี้ยวเหยเก จากทรรศนะตัวใครตัวมัน โอ้...ปัจเจกชนเน่าเหม็น ซึ่งได้รับรางวัลยอดแย่ กระทั่งประเทศตายไปแล้ว ก็หยาบกระด้างเกินจะรับรู้

พุทธศาสนาไม่แปลกใจ

Image
พุทธศาสนาไม่แปลกใจ ในผู้คนแปลกประหลาด ในรูปใจแปลกแยก ในรูปลักษณ์ไม่แท้ ไม่เป็นธรรมชาติ ถือตัวตน ไม่ว่าจะสังเกตลักษณะไหน ไม่ว่าจะเฝ้ามองเวลาใด ไม่อาจไม่แตกต่าง ในปรากฏทั้งปวง พุทธศาสนาไม่แปลกใจ

โลกใส่สี

โลก ใส่สี นับตั้งแต่รุ่งเช้าคือสีชมพูปนส้ม ผิวปากเริงรื่นกับดวงอาทิตย์ไข่เค็ม ต่อมาจึงปาดสีแดงเที่ยงวัน โก่งคันศรให้สีแดงแตกไหม้ ตกลงในท้องทะเลปรารถนา แ ล้ ว เลี้ยวลมโกรกยามบ่าย ปรายมายาหมอกพรางใจ ขับกล่อมสีม่วงโอนเอน หมุนหงอยระหกระเหิน หลากล้นหลุมอารมณ์คลุมเครือ ก ร ะ จ า ย สีครามเวิ้งยามเย็น ภายในความเศร้าเนิ่นนาน บนท้องทุ่งขุ่นกองฟืนเปียกชื้น คือศิลปะสีเทาใต้ซากปรักหักพัง ห น ท า ง ของผู้เต็มทุกข์ ก้าวสู่ดินแดนสีน้ำเงินพลบค่ำ โอ...หลงเข้าใจว่านิ่งเรียบ ความหนาวยังอยู่บนเชือกเส้นเดียว กระตุกสีเขียวเหลืองกระพือปีกชายฝั่ง อรุณรุ่งวางช่อดอกไม้อีกครั้ง ในมวลสีที่หมุนวน โลก ใส่สี

ถนนสายใบไม้

Image
ถนนสายใบไม้ ทอดไหลตามความยาวของลมตะวันออก นกกระสากางปีกกว้างโผบินกลับรัง สายลมเจือกลิ่นหอมเมฆขาว ย่ำค่ำของถ้อยคำแผ่วปราย ดวงดาวค่อยค่อยแต้มฟ้าสีน้ำเงินใส ทีละดวง ทีละดวง ว่า... ฉันคิดถึงเธอ ้

แมงมุมที่ตายแล้ว

Image
ฉันอาจใช่ แมงมุมที่ตายแล้ว สมองอันน้อยนิด ตีแผ่ความรู้สึกภายในเชิงรอยแก้ว วนเวียนซ้ำเดิมจากใจดวงเดิม แขนขาระยางค์ยาว เพียงหยิบยืมบ้านเรือนในความว่าง เขียนเส้นใยเบาเบาจากใจบางบาง กับความคิดที่ไม่เคยตากแดด กับตัวหนังสือที่อับชื้น กับความละเอียดอ่อนที่ขึ้นรา ฟากฟ้าถ้ำรอบตัวมืดทึบ ในหนทางซึ่งยังไม่ผ่านพ้น

ดอกทาสอารมณ์

Image
ดอกไม้ชนิดเดียว ขึ้นในป่าชื้นดิบธาตุธรรมชาติ กินความสุขชั่วครั้งคราวเป็นอาหาร เจริญเติบโตได้ดีในดินชุ่มละโมบ ใช้แดดกิเลสปรุงแต่งทั้งปวง ทั้งลุ่มหลงลีลาฝนเพ้อ แต่ละกลีบล้วนชุ่มกลิ่นไร้ขอบเขต โอ้เจ้าดอกทาสอารมณ์

สะพรั่งเมษายน

Image
สะพรั่งเมษายน ตลอดหลายวันมาแล้ว ตกหลุมรักฟากฟ้าฉ่ำดาว ชักชวนริมฝีปากอ้อยอิ่ง สีชมพูเลือดฝาดละมุนละม่อม ยามเช้ากลิ่นจันทร์กระพ้อ นวลอารมณ์ลมหายใจอบเชย หอมกลิ่นกายผืนผ้าใบสีน้ำทะเล แรงดลใจเร้นลับของเส้นผม ละลิบละลับยั่วเย้า โอ้เธอ...ช่างหวานอ้อยสร้อย

ตะวันอบร่ำ

Image
ตะวันลาอบร่ำ ถนนทอดยาว,สีชา ยามเย็นท่องไปโค้งคลุมโลก,หม่น ราตรีพงไพรชีวิต ลำธารที่ไหลแผ่ว,ล้าลม คำนึงกลิ่นฤดูแล้ง หวั่นไหวในเงียบสงัด,ประหวั่น ระส่ำระสายเดียวดาย อารมณ์ใจรำพึง ปลายยามเย็น