Posts

Showing posts from 2007

โอ้..ความเศร้า

Image
photo by : claudecf วันที่แดดเป็นสีส้มฝ้าฟาง โอ้...ความเศร้า เจ้าจู่โจมด้วยอาภรณ์ประหลาด รุ่ยร่าย มืดมัว ถักทอเส้นด้ายโหยหา พลอยสีดำกลัดกระดุมระทม แน่นและอ่อนไหว กระเป๋าชายฝั่งปิดสนิทด้วยความทุกข์ ซัดสาดใจหดหาย คิดถึงเธอ... . คิดถึงเธอ... . ในความอ้างว้างของวันนี้ทั้งหมด

โอ้..หอมกลิ่นเธอ

Image
Photo By akki14 โอ้หอมกลิ่นเธอ ธรรมดาทุกทุกวัน มากรสหวานน้อย หรือหวานมาก และขมกล่อม ซึ่ง ไม่เคยเหมือนในทุกทุกวัน ใกล้กันยิ่งคุ้นเคย หรือจากไกล ระบำเธอ กลิ่นกาแฟ ใต้แสงจันทร์

ยามบ่ายคล้ายเย็น

ยามบ่ายคล้ายเย็น สีเทาในอากาศถูกจับมัดรวม ทุกสิ่งดูเรียบแบบชำรุด ในท่ามกลางเวลาคล้ายผุกร่อน โลกถูกปิ้งบนเตาเทคโนโลยีอย่างฉับไว เรียกการดำรงชีพเช่นนี้ว่าอะไร นี่คือภาพร่างศิลปะยุคไหน ไม่รู้กึ่งดิบกึ่งสุกหรือจะไหม้ สะพรั่งทุกหัวใจ อย่างเกรียมแล้ว

รูปแท่งคนร่ำรวย

รูปแท่งของคนร่ำรวยเงินทอง คือการเลี้ยงชีพที่ดูงดงาม สบายสบาย ไม่แหลมคมในกำไร โอ...ร้านขายขนมวาดสีน้ำบนลิ้น โอ...ร้านชากาแฟเลียบหมูดาว โอ...ร้านหนังสือเชิงเขาปรายลม โอ...ครูสอนศิลปะปราณีต โอ้...โอ้ใจที่ใฝ่เรียบง่าย ลมหายใจนวลเนียน แดดใดเล่า จะแผดเผา รูปแท่งของคนร่ำรวยเงินทองได้

การมาถึงครั้งแรก

การมาถึงครั้งแรก หล่อเลี้ยงชีวิตเพียงชั่วครู่ .....เสี้ยว ของเสี้ยว ....ความคิด จมอยู่ในซอกใต้พื้นดิน .....เฉย หากบางสิ่งกลับกระจายแดด บางสิ่งคล้าย คล้ายเอนลม อีกบางสิ่งตก ห้ ว ง เหล่านี้ และ เหล่านั้น ล้วน ติด กับดักเวลา

อารมณ์

อารมณ์นั้นเคียงข้าง ครองเรือน เช้าค่ำย้ำเล่ห์เยือน ห่อนเว้น กลซ่อนใจเสมือน แสนสนุก ฤาพ่ายฤาปลีกเร้น ฤาร้างเรือนใจ

โลกหนึ่งวัน

Image
แค่แสดงความต้องการบนโลกหนึ่งวัน เท่านั้น รอบรอบตัวมีกลิ่นลั่น ระทม อาจมเหม็น ขมขม ขื่นขื่น ความคิด ความไม่คิด สั้นเสียเหลือเกิน แค่การแสดงออกในหนึ่งวันบนโลก ความลับเปิดเผยตัวอย่างน่าเศร้า โฉมหน้าของมันน่าเกลียดอย่างนี้เอง ตะปุ่มตะป่ำ หยาบหยาบ อย่างนี้ อีกยาวนาน โศกทุกข์ยะเยือก

ก็คงสิ้นหวัง

Image
มีหู ใช่ว่าจะเข้าใจอะไร มีจมูก ก็กลับจะเพ้อฝันลิ้มรส มีลิ้น ที่โง่เขลาอยู่ในปากทุกวี่วัน มีผิวกาย ก็แค่ห่อหุ้มความหลอกลวง แล้วจะหวังให้มองโลกในแง่ดี อย่างที่ตาแลเห็น ก็คงจะสิ้นหวัง

แห้งโหยฤดูหนาวหนึ่ง

Image
แห้งโหยในฤดูหนาวหนึ่ง โอ้...การเมือง ธันวาคมสองพันห้าร้อยห้าสิบโหยหา ทิศทางซึ่งห่อเหี่ยวห่มร้าง ย่ำใจอย่างอ่อนแอ กระแสน้ำกลายเป็นสิ่งขวางกั้น ความเข้าใจแข็งแข็ง ความเมตตาผุกรอบ ร่วน ติดแหความหลอกลวงถาวร โง่งมจนเข้มงวด ดวงอาทิตย์ฉายสีราตรีสะท้าน โอ้สายลมถูกหมักดองโดยเสรีภาพ หรือประเทศจะอาเพศ ถูกฉีกเป็นเศษกระดาษกันครานี้

ความเจ็บป่วย

Image
Photo By ebergcanada ความเจ็บป่วยพลุกพล่าน เหมือนตลาดนัดขายสินค้ามือสอง ฝุ่นซึ่งถูกประณามว่าไร้สัญชาติ เชื้อโรคต่างเผ่าพันธุ์ระเริง ความภักดีที่นอบน้อมต่อร่างกาย เต้นรำอย่างผ่าเผย โอ้ฉัน...ทนทุกข์ทุกซอก ความอึดอัดเปล่งประกาย ดังเพชรประดับยอดมงกุฎ ราชาอย่างไรกันไม่ละวาง ราชินีฝันก็แค่เพ้อฝัน หมุนคว้างทุกวันสลัว เงียบงันรันทด จนพลบค่ำป่วยไข้

ยามบ่ายคล้ายเย็น

Image
Photo By ก้านต่อดอก ยามบ่ายคล้ายเย็น สีเทาในอากาศถูกจับมัดรวม ทุกสิ่งดูเรียบแบบชำรุด ในท่ามกลางเวลาคล้ายผุกร่อน โลกถูกปิ้งบนเตาเทคโนโลยี อย่างฉับไว เรียกการดำรงชีพเช่นี้ว่าอะไร นี่คือภาพร่างศิลปะยุคไหน ไม่รู้, กึ่งดิบกึ่งสุก หรือจะไหม้ สะพรั่งทุกหัวใจ อย่างเกรียมแล้ว

โคลงเคลง

Image
By ArteZoe ราตรีนี้ห่อด้วย คำโคลง หอมกาพย์มณีโยง สดับได้ ฉันทลักษณ์จรรโลง สว่างหล้า หอมนวลซ่านม่านฟ้า รุ่งอรุณมณีสวรรค์ ธันวาคมย่างเข้า หนาวเดือน พฤศจิการ้างลืมเลือน ไป่แล้ว กันยายิ่งลางเลือน ลืมก่อน ตุลาจึ่งค้างแคล้ว โศกข้าง กว่าไหม แดดไล้ระบัดไม้ ปลายลม ใจร่วงหมองทุกข์ทน หม่นหว้า แดดเลือนลางเมฆดล เป็นอื่น ใจห่างร้างจากฟ้า จึ่งทิ้งในตรม

นั่งบนตักยามเย็น

Image
นั่งบนตักยามเย็น ดวงตะวันสีแดงอุ่นสม่ำเสมอ กลางลมหนาวหวานกรอบ ล่องลอย หลงใหลถึงใจเธอ

ฝูงปลาตะวันออก

Image
ฝูงปลาตะวันออกเอย ทุกแดดฉายล้วนชื่นบาน ด้วยการระบัดร่ายแห่งเธอ ทะเลพูดได้ เต็มเวิ้งน้ำอย่างร่าเริง แล้วเวทย์มนต์ยามเช้า ก็กลายรวมเป็นผีเสื้อระยิบ โบกสู่เวิ้งฟ้าบางเบา เป็นสายลมดอกไม้กระจายฝัน ภายในอย่างพึงพอใจ

เงาดาว

Image
ใต้ร่มหมอกไม้ เงาดาวไม่อาจทอดทาบ เงาจันทร์ปรายเพียงแผ่วผิว... กรรซิบพราวสายลม บางครั้ง โอ...อ้อมตักอุ่น เธอเอย ดวงตาฉ่ำเมรัยสีองุ่นแดง ค่ำคืนฤาถอนคืน

คืนปลายฝน

Image
ปลายฝนยังคิดถึง อำลารำพึง ฉ่ำชื้น ใจดังฟ้า รำพันสะ อื้น นอกหน้าต่าง ใบไม้คลุมเครือ ลมกลางคืนหลงทาง ร่ำไป ริ้วรอยรักใคร่ คือสุดท้ายของค่ำ คืนปลายฝน

ค่าเดินทางรายวัน

Image
สูงลิ่วเหลือเชื่อ ค่าใช้จ่ายเดินทางรายวัน สูบกินสิ่งอื่นอื่น ผู้คนอดทน ผู้คนลำบาก กินอาหารคลุกก๊าซคาร์บอนมอนน็อกไซด์ ถูกค่าใช้จ่ายเดินทาง แก่งแย่งความอุดมสมบูรณ์ ฉกชิงความสดชื่น เหลือเพียงเศษเงินเหี่ยวเหี่ยว กับตัวเลขหลักหน่วย ค่าใช้จ่ายเดินทางรายวันสูง ลิ่วเหลือเชื่อ

ในความแปลกหน้า

Image
ในความแปลกหน้า เก้าอี้ อาจใช่ ผ้าเช็ดหน้า ผัดไทย อาจใช่ หลอดดูดน้ำ ใบกะเพรา อาจใช่ ปลาทะเลลึก ขนมปัง อาจใช่ กาแฟร้อน ผู้คนใช้ถ้อยคำพื้นพื้น อาจใช่ บทกวีง่ายง่าย กำลังแกะชิ้นคำน้อย น้อย ทอดปูเป็นทางเดินเท้าถึงกัน ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๐ : http://www.thaiwriter.info/forum/index.php?topic=28.84

กระแสสำนึกย่ำค่ำ

Image
จมอยู่ในตัวหนังสือ กระแสสำนึกย่ำค่ำ กลิ่นดอกปีบเหงาจาง ผุดระหว่าง ที่รกร้างตัวอักษร หมุนเศร้าสร้อย ก้านดอกยาว กลีบดอกบาง เปลี่ยวหารำพันเงียบ ทวนซ้ำ ซ้ำ ซ้ำไร้เดียงสา ดอกไม้พลันร่วงในดวงตา หน่วงหนัก

s p a c e

Image
s p a c e พื้นที่ ว่ า งสมัยใหม่ มากมาย แบน ก ว้ า ง สูง ยาวววววววว s p a c e เคาะ เคาะ เคาะ แปะ แปะ แปะ เดี๋ยว เดียว คล้ายหลอกหลอน ตนเอง คล้ายหลอกลวง ตนอื่น คล้ายที่ว่างเปล่าประโยชน์ ด้วย s p a c e ส(ระ) เป(ร)ต ส่งเสียงกรีดแหลม ผลักดันโน้มน้าวเต็มแรง สัญญลักษณ์เบ่งพอง เวลาเสียเพลิน อารมณ์ตาปรือ รสชาติแปลกทีเดียว s p a c e ส (ระ) เ ป (ร) ต

เธอยามเช้า

ฉันรักเวลาตื่นนอน เธอยามเช้า ที่งัวเงียอู้อี้ เสียงราวดอกไม้แห้ง ระหว่างวันสียังสด กลีบยู่ยี่ยังงาม ท่าทางเหมือนใบไม้ใต้ต้น ระหว่างอาทิตย์ รูปทรงที่ปล่อยตัว สบายสายลม กลิ่นเหมือนไวน์ผลไม้ป่า ระหว่างปีต่อปี ละมุนฝาด โอ้..ใจหลงทาง เธอช่างบ่มคราค่ำคืนพอดี สาดลำแสงนวลอารมณ์ เธอยามเช้า หอมน่ารัก

ตัวหนังสือเย็นลง

Image
แรกแสงสลัวสีทองอ่อน ตัวหนังสือของฉัน เริ่มเย็นลงในฤดูหนาว ใบสีเหลืองน้ำตาลซีด ไม่ได้ร่วงพรู ทีละใบค่อยค่อยปลิดขั้ว ทีละใบค่อยค่อยรำพึง ปลิดปล่อยหัวใจซึ่งเคยร่ายลม ปลิดวางอารมณ์ซึ่งเคยเริงแดด ปกคลุมด้วยพู่ความคิดรุ่งริ่ง รกรุงรัง ขณะสายลมเย็น หนาวลงอย่างอ่อนนุ่ม ฉันจะซุ่มเพาะความคิด ปลูกบ่มคำนึง อันลำพังส่วนตัวในวันคืนฤดูหนาว. ..เพื่อจะลุก.. . จุดประกายไฟทาบฟ้า อีกคราเมื่อแดดลมฤดูร้อนถามถึง

พยัญชนะจากอดีต

ฉันมักยืมพยัญชนะจากอดีต เท่าที่จำได้และจำไม่ได้ แต่ใช้สำเนียงปัจจุบัน พยายามโน้มน้าวอนาคต ไม่คุ้นเคย ไม่มีในชีวิตประจำวัน นั่นเป็นข้อด้อยและ โอนเอนจุดหมาย ไม่มีคำตอบ แต่ฉันก็จะ ไม่พินิจพิเคราะห์หรอกนะ

นั่นคือเธอ

Image
เมื่อเห็นเธอ ฉันประหลาดใจร่ำไป หน้าตาเหมือนชนบทริมทาง ซึ่งทุกวันนี้ไม่ใคร่พบเห็น เส้นผมเหมือนสายลมหัวเราะ ซึ่งทุกวันนี้ไม่ใคร่พบเห็น ดวงตาเหมือนบทกวีเรียบเรียบจากใจ ซึ่งทุกวันนี้ไม่ใคร่พบเห็น ท่วงทีคล้ายกิ่งไม้ป่าฝน ซึ่งทุกวันนี้ไม่ใคร่พบเห็น ความคิด..... โอ้...ความคิดคำนึง ย่ำพลบดั่งรุ่งอรุณ ซึ่งทุกวันนี้ไม่ใคร่พบเห็น นี่คือ... ผู้ชายคนนั้นของฉันสีเขียวตรึงอารมณ์

ราตรีสีเทียน

Image
ราตรีสีเทียนวูบไหว โชคชะตาชราแล้ว อย่างชื้นเย็น ความทรงจำรามือ แ ผ่ ว เหมือนไม่มีอะไร เงาเก่าแก่ กลิ่นโดดเดี่ยว อยู่ใกล้ใกล้ โอ้...ปรอยฝนมากมาย เดียวดายทุกทิวสายแม้จางเบาา า า .. . . . โคลนตมค่ำคืนเชื่องช้า หาดทรายกลางวันเงียบเชียบ เปลญวนชีวีไกวไหว ล้าลง .. . ล้า ล ง

ฝนซา

ฝนซาขณะเดินเล่น หอมสีปูนแห้ง ท้องฟ้าโปร่งราแดด ความคิดถึง ไม่จางสายในปรอยฝน ดอกไม้สีเหลืองระริน ริมทางนุ่มนวล เลือนเลือนใบไม้ยามเย็น ผิงหนาวสู่ยามค่ำ พำนักในใจ ชื้นฝนอีกครั้ง อย่างรื่นรมย์

ฟ้าหอม

Image
ยามเย็นสีฟ้าสงบ ลมฤดูฝนโบกใบไม้ ร่วงกรู ในสีเขียวหอม

กรุ่นเช้า

Image
ลายหมากรุกสีน้ำตาลใบไม้ ถักทออารมณ์บนตารางเส้นฝ้ายนุ่ม เจือกลิ่นเบียดเธออุ่นหน้าเตาไฟ ก่อนรุ่ง เมียงมองดอกดวงอาทิตย์สีส้มแดง ลอดหมอกเกลี่ยไม้ รำ ไ ร . . .

เฝ้ารอ

Image
หลายครั้งรู้สึกคล้ายหวัง ฝัน อยู่ ใน อ้อมกอดเธอ ทุกย่ำรุ่ง,เฝ้ารอ อุ่นไอหอมเกี่ยวก้อยขอบฟ้า สืบสายสีทองตลอดลมหายใจ หรือนั่น...ดวงดาวแสงแดด หรือใช่...ดวงจันทร์ทิวา ย่องเบาเบาอยู่ในฉันวูบวาบ เป็นตะเกียงวับแวม เป็นกระแสน้ำระยิบไหว และ ลมที่พัดสะเปะสะปะนั่น เหล่านั้น..จะช่วยหอบไกว ถึง ความหวัง ซึ่ง ขยับกิ่งอยู่ปลายสะพานแสนไกล และ เธอเฝ้ารออย่างกระตือรือร้น พร้อมรอยยิ้มดอกไม้ ไหม

เพิกเฉย

Image
Photo-by : aska2 เธอทอดทิ้งเพิกเฉย ในคิดถึงที่... นกเล็กเล็กพากันร้องเพลง ในรู้สึกที่... ใบไม้ล่องเพลินสายลม ในหัวใจที่...ก้อนเมฆลูกแกะกระโดด ในอารมณ์ที่... ดอกไม้บานสะพรั่งเนินเขา ในจินตนาการที่... ทางช้างเผือกทอดสะพานข้ามฟ้า โอ้ความคิดถึงเอย... โ ป ร ย ป ร า ย แสนเสียดายเธอ ไม่ได้คิดถึง

แขกนิรนาม

ภาษาเป็นแขกนิรนาม คำบางคำที่ไม่คาดคิด เดินรี่ตรงเข้ามาอย่างถือวิสาสะ จึงไม่แปลกที่จะถูกจับทิ้ง ในถังขยะถ้อยคำ

สีสันแห่งเวลา

Image
Photo By : mundomeu สีสันแห่งกาลเวลา แต้มสี ในบ้าน นอกก ว้ า ง ในบ้าน ในก ว้ า ง ปรากฎตัวขึ้นผสมกลมกลืน เปิดเผย ท้าทาย และจางเงา ขัดเกลาแล้วอย่างพิถีพิถัน นั่นสีเขียวฤดูฝน สายลมยังเชื่อมต่อ สีฟ้ายามเที่ยง เคลือบขอบสีส้มแล้วร่วงลงสู่ สีแดงประณีต จากทะเลทรายแดดไกล สีชมพูกุหลาบงาม ป่วนใจเหนือความหมายทั้งปวง สีเทายังเคว้างคว้างอ่านไม่ออก สีเหลืองมะม่วงสุก เอ่ยย้ำแรกฤดูร้อน สีน้ำเงินสว่างามแห่งปัญญา สีดำยืดยาดเจ็บป่วยท่ามกลางร่ อ ง ร อ ย ความคิดเห็นของสีต่อโลกนั้นมากมาย โลกไม่อาจเก็บกักสีด้วยเวลาชั่วขณะหรอก เวลาต่างหากที่ถูกชักพาลากจูงล่องทางไป โดยสี

ฉันและเธอ

Image
ฉันและเธอ เธอและฉัน ฉันกับเธอ เธอกับฉัน ยามเที่ยงวันหลายอย่าง ที่ประสมประสานเวลา ลงในป่าแสงแดดฤดูฝนสีส้มเทา คือคลื่นถาโถมและชายฝั่งขี้เกียจ ตัวเปล่าราบเรียบ ไหลตามลำน้ำเหมือนจะเชื่องมาก แต่อาจเปลี่ยนทิศทางฉับพลัน แง่มุมความฝันฤดูฝน

พลเมืองขี้หึง

Image
อาณาจักรบนฉัน มีพลเมืองขี้หึงมากมาย ยืนทะมึนรออยู่ตรงทางเข้า-ออก นั่งชะเง้อเต็มขั้นบันไดเวลา สอดรู้สอดเห็นจากช่องหน้าต่างดื้อรั้น อันร้อนรน เพื่อจะแผ่ออกอย่างสีแดงกระจ่างแจ้ง ร่ำร้องทุกครั้ง ที่มีโอกาส

เม็ดฝน

Image
เม็ดฝน เ ม็ ด ฝ น เ ม็ ด ฝ น นี่คือพี่น้องเม็ดฝน วิ่งเรียงแถวลงจากทุ่งฟ้า ลมโลดโผนกรรโชกพา จนไม่รู้ว่าใครเป็นพี่เป็นน้อง นฝม็เด ฝ ม็ เ อ ด ด เ ฝ ม็ น

อย่างหวานชื่น

Image
photo By : Georgia O'Keeffe อย่างหวานชื่น ฉันในท่วงทำนองครุ่นคำนึงหา เธอยามเช้า ผีเสื้อโบกปีกแผ่วเต็มสวนตะวันออก สีชมพูขวยเขินอยู่ริมขอบฟ้าบางเบา เธอกลางวัน ตลอดเวลาบ่ายดอกไม้หัวใจ ย่างเท้าตามหลังร่องรอยความคิดถึง ทอดเงาหอมฉันหลงใหล งมงาย จนกว่าจะประทับริมฝีปากแนบ เธอยามค่ำ

จมแดด

Image
ภาพ : PAUL KLEE น่าเบื่อและวิตกยืดเยื้อ ที่ต้องเป็นสัตว์เลี้ยงในรูปประโยคทับซ้อน อุตสาหกรรมในหมอกคำ ลอยลำเจตนาสุรุ่ยสุร่าย จนล้นฟองครีม เสียงกระซิบของวลีสีแดงจัด ซึ่งพยายบามแสดงตนโดดเด่น ติดกิ๊บสีเขียวเปิดเผย บนประโยคซีดเซียว สมองเรียวเรียบ ทอดสมอสนิมจมแดดเนื้อเรื่อง

บทกวีเฉยเมย

อีกฝั่งของแม่น้ำกว้าง บทกวีคือเงาที่ทอดนอนนิ่ง เป็นดวงจันทร์ฤดูฝน กี่ค่ำก็ยังหมองแสง และเมฆสีเทาบดบัง เป็นครั้งคราวกระซิบบอก ฝนในความคิดก็ยังตกหนักเป็น บทกวีสะเปะสะปะ เป็น บทกวีที่ไม่อาจโจมตีได้ เป็น บทกวีในห้องเงียบ เป็น บทกวีที่ถูกบดทับแบน บทกวีเดินเท้าเปล่าริมทาง บทกวีที่ไม่ได้เป็นสิ่งใด เรือ แพ กระทั่งขอนไม้ และแม่น้ำยังคงไหลเชี่ยวหยาบกระด้าง บทกวีที่ว่ายน้ำไม่เป็น ลงน้ำไป ก็กลายเป็นบทร้อยแก้วเฉยเมย

หนังสือสีเขียว

Image
หนังสือเล่มสีเขียว คือแต่ละหน้าของกระดาษแผ่นดิน พยัญชนะกิ่งก้าน สระใบไม้ วรรณยุกต์เกสร ประโยคต้นไม้ยืนแถวซึ่ง ม่เคยเป็นแนวตรง นั่นงดงามแล้ว สำเนียงเสียงสูงต่ำ ในท้องฟ้าร้อยกรอง ในทะเลร้อยแก้ว ในภูมิทัศน์บทกวี ในสายลมโวหาร มนต์ผืนป่าถ้อยคำเปล่งสำผัส ร้อยประสานอยู่โดยรอบ เหลือก็เพียงแต่ ระมัดระวังการเปิดหนังสือ อย่ารีบร้อนจนฉีกขาด

เอมิลี ดิกกินสัน

Image
เธอห่มคลุมด้วยเวลาเช้า ดวงตาระลึกย้อนหลังอย่างมีความหมาย ล่องทะเลอัศจรรย์เงียบเชียบ ,อย่างไร้ปีก ถ้อยคำซึ่งเปิดเผยความลับอย่างชาญฉลาด บทกวีประหนึ่งภาพปูนเปียก รวดเร็วทว่าแม่นยำ และทอดสมอนิ่งนานในเวลา สง่างามบนทางเดินสีทองล่วงหน้าเสมอ โอ้....เอมิลี ดิกกินสัน

เกลื่อนกลาด เคว้างคว้าง

เกลื่อนกลาด..... ผู้คนมากมาย หน้าตาประหลาด เหมือนเซลล์พืชเซลล์สัตว์ บ้างเหมือนผิวหนังยีราฟ เหมือนกระดูกคางสัตว์ล้านปี บ้างเหมือนเห็ดราทันทีทันใด เหมือนครีบส่วนก้นของปลาบางขณะ บ้างเหมือนกระดองเต่ายืดเยื้อ เหมือนทุนนิยมลิงโลด บ้างเหมือนช่อองุ่นและลูกสนเหยเก เหมือนลำดับชั้นหินชาเย็น บ้างเหมือนการตกตะกอน ไม่สมบูรณ์ เหมือนเขียวคมล่าเหยื่อยามดึก บ้างเหมือนรถเข็นในห้างต่างชาติ เหมือนวัตถุเสเพลในชีวิตประจำวัน เคว้งคว้าง..... ผู้คนมากมาย อารมณ์แปลกแปลก เหมือนสื่อสมัยใหม่ไวรัสนิยม บ้างเหมือนเปลือกหอยที่น้ำท่วมถึง เหมือนการกระจายเมล็ดในทุ่งแห้ง บ้างเหมือนผีพุ่งใต้รายวินาที เหมือนสีของเมืองใหญ่กำลังพัฒนา บ้างเหมือนประชาธิปไตยตำแหน่งลวง เหมือนเส้นใยโวหารรุงรัง บ้างเหมือนเข็มนาฬิกาที่รวบเข้ามา เหมือนภาพกระจกเงาเสมือนยามพลบ บ้างเหมือนพันธุกรรมจัดเตรียม เหมือนกันและกันไม่ยอมแยกจากโรคร้าย บ้างเหมือนการกระโดดสร้างภาพลักษณ์ เกลื่อนกลาด ชินชา เคว้งคว้าง เบื่อหน่าย ผู้คนมากมายแปลกแปลก อารมณ์มากมายประหลาดประหลาด ซึ่งถูกออกแบบขึ้นมา เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ ??? ?? ??????? ?? ????? ?? ??? เกลื่อนกลาด ชินชา เคว้

หรือเธอแกล้งไม่รู้

Image
หรือเธอแกล้งไม่รู้ ไม่รู้ ปล่อยให้ใจฉันโล้ชิงช้าเช้าค่ำ อยู่ค่ำเช้า ค่ำ เช้า ค่ำคืนดาวเกลื่อนเดือนพราว ลมรำเพยหนาวหนาว หนาวจับใจ มองมองเหม่อเมฆหมอง หมอง มองจากดวงตาคิดถึงร่ำไห้ ร่ำไห้ โอ้เธอ...โอ้เธอแสนไกล ไม่เคยละลาย ไม่ ละ ลาย จาก จากจาง.......

ชื่อของเธอ

ชื่อของเธอ...หรือ ความคิดถึงเธอที่คร่ำครวญหา คือนิยามลับฟากฟ้า หรือเศษเสี้ยวแสงจันทร์ ร่วงหล่นครึ้มกระจาย กลางหมู่ดาวเหงากะพริบ กึ่งฝันบนรอยแยกยามค่ำ เดียวดายเลือนเมฆหมอง เปื้อนน้ำตา..... โอ้เธอเอย ไม่ละลายจางแม้รุ่งเช้า

ความเดียวดายไร้เปลือก

Image
ความ คิ ด ถึ ง เธอ กลางทะเลทรายว้าเหว่ เม็ดทราย ห น า ว เส้นขอบฟ้า แดดเวิ้งว้าง จันทร์ร้างใจ ความเดียวดายไร้เปลือก อนิจจา หรือจะให้ รำพึงน้ำตาลงสู่ความตาย

ฤดูฝนที่แปลกหน้า

Image
ฤดูฝนที่แปลกหน้า ถวิลหาฟ้าโปร่งของพรุ่งนี้ เมฆเทาทึมแม้นุ่มนวล แต่ไม่รู้หรือว่า ฟ้า อ้าง ว้าง โอ้...ใจเอย ร่วงหล่นในค่ำคืนไหน เหนือทุ่งฝันเงียบงัน เบื้องหน้ายังโดดเดี่ยวแสนไกล เหลียวแล ฟากฝั่งที่ไปไม่ถึง

โลกยังกัดกร่อน

Image
โลกยังถูกกัดกร่อนและเผาระเหยรายวัน เนื่องจากการตัดขาดความสัมพันธ์ อย่างสิ้นเชิง ระหว่าง มนุษย์กับสิ่งอื่นทุกสิ่ง สัตว์ที่สึกกร่อนทางการสืบพันธุ์ พืชที่ถูกกำจัดขอบเขต ก้อนเมฆที่ติดโรคจากสเปรย์กระป๋อง กระทำซ้ำซ้ำกับพื้นดินด้วยปุ๋ยเคมี อำนาจบุกรุกที่ไหลเชี่ยวอยู่ในธารน้ำ ในพิษภัยที่เกิดขึ้นนี้ โลกจึงหมุนไปอย่างก้อนดินที่ตายแล้ว

ต้นจันกลางแสงจันทร์

Image
เนิ่นนานมาแล้วกว่าเจ็ดสิบปี ต้นจันกลางแสงจันทร์ โอบเอื้อสรรพสิ่งในร่มเงาเขียว สง่างามดั่งราชาแสงแดด อ่อนโยนราวราชินีแสงจันทร์ สีเหลืองลูกจันประดับกิ่งใบฤดูเวลา เปลือกสีด่างดำแต้มรอยยิ้มเก่าแก่ หอมกรุ่นกลิ่นเสมอในสายลม ขณะครุ่นคำนึงคราร้างลา เมื่อฝนกรกฎาพรำสาย อาดูรอาลัยต้นจันแสนงาม อาลัยต้นจันบ้านพจนา จันทรสันติ

คนที่ไม่ถูกบงการด้วยการศึกษา

Image
คนที่ไม่ถูกบงการด้วยการศึกษา ตามกระแสนิยมทุนนิยมคุกคาม ปวดร้าวหัวใจ ดังซากเน่าเปื่อย เพราะการศึกษาที่บ้าคลั่งศึกษา ใ นภาพสมองที่แผ่รังสีความรู้ด้านนอก ยืดตัวสูงเลยฟ้าแล้วกวาดเมฆไว้ทั้งหมด นี่คือยุคเริ่มต้นของแสงแดดข าดวิ่น และหลอกแสงจันทร์ ด้วยดวงไฟถนนจอ มป ลอม ความสำเร็จสุขช่างเบากลวง ::ปักเขตแดนอย่างละโมบ:: ตั้งหิ้ง บูชาความเป็นเลิศอย่างหลงใหลงมงาย สะท้อนความเชื่อในการศึกษา อย่าง ไร้การศึกษา

เมืองที่ไม่มีอะไร

ล ะ ล้ าล ะลั ง ในเมืองที่ ไม่ มี อะ ไร อีก ต่อ ไป เมืองซึ่งกำลังมอดแสง เปล่าประโยชน์ และแก่ตัวลง

ในวันป่วยไข้

ในวันป่วยไข้ ยามเช้าล้มระเนนระนาด เ ที่ยงวันแล้วแดดยังสีซีดจาง ถึ งบ่ายสีขาวยิ่งเวิ้งว้าง กลงสู่ทุ่งกว้างซึ่ง... ดวงดาวหนาวน้ำทางทิศตะวันตก

โลกทุรกันดาร

Image
โลกทุรกันดารเพิ่งเปิดประตู จัดเตรียมความอาดูรไว้เถิด อีกไม่นานฝูงชนจะทุรนทุราย เร่ ร่อน ในฝุ่นละอองที่เหนื่อยล้า

มนุษย์ใจดื้อด้าน

Image
มนุษย์ใจดื้อด้าน ประดับประดาอย่างเกลื่อนกลาด ในกรงขังที่ถูกสาบแช่ง

ความสัมพันธ์หลังไมค์สมัยใหม่

Image
ความสัมพันธ์หลังไมค์สมัยใหม่ เปิดตัวขึ้นภายใต้เงื่อนไขใจปริศนา เงามิตรภาพนิรนาม จากลมหายใจของอิฐปูน และแอร์คอนดิชั่นซีดเซียว ความเริงแล่นของเมืองที่หลงผิด กดลงบนพิมพ์ชีวิตรูปแบบเดียว โบกกระหน่ำว้าเหว่เสมอกัน กวาดอารมณ์รอบอาณาเขตสองฝ่าย กระตุ้นต่อเนื่อง ความรู้สึกฟุ้งฝันงมงายแผ่ซ่าน นำหน้าเสมือนเงียบเชียบเสมือน การรอเด็ดกุหลาบแบ่งบานหนามกุหลาบ นี่คือศาสตร์ต่างหลอกลวงใจ วางอย่างถี่สมดุลที่จะตกลงสู่ บนรอยด่างอ้างว้างแห่งใจ อีก

ไม่มีรุ่งราง

ตลอดหลายวันไม่มีรุ่งราง จมอยู่กับใจที่เบื่อหน่าย สีเทาเถาไม้เลื้อยรัดรึง อย่างไม่รู้ไม่ชี้ ฝนเดียวดายยิ่งสาดโปรย อย่างไม่ขาดสาย ฉันอยู่ที่นี่หนาวเหน็บ อย่างเปียกชื้น ความมืดยิ่งเหนียวหนึบ อย่างอ้อยอิ่ง หรือร่างกายเป็นได้เพียงเวลากลางคืน

เวลา

Image
เวลา หนึ่งทางช้างเผือก เวลา สองห้วงมหาสมุทร เวลา สามห่างไกลจากใจเธอ ที่แท้ เวลา มีลักษณะนามเช่นใด

เมือง

Image
ล ะ ล้ าล ะลั ง ในเมืองที่ไม่มีอะไรอีกต่อไป เมืองซึ่งกำลังมอดแสง เปล่าประโยชน์ และแก่ตัวลง

ตัวขี้เกียจ

ริ้วรอยร า ง ร า ง ขีดเส้นมาอย่างไร้เดียงสา ขยับเรื่อยเปื่อยขยุกขยิก เฉื่อยช้าอืดอาด เกาะนิ่งรัดรอบ .. .. ตัวขี้เกียจ

นักกวนเมือง

ดอกไม้ทะเลเป็นแค่โฉมหน้า แท้จริงมันเป็นตัวตืดอย่างยิ่ง แถมเป็นปลิงดูดเลือดที่เลือดเย็น สมองฟองน้ำไร้สำนึกบนร่างที่มีแต่รูพรุน นั ก ก ว น เ มื อ ง เช่นนี้ วิสัยสัตว์ชั้นต่ำ

ใบไม้ร่วง

Image
ฉัน .. .. .. . ใ บ ไ ม้ ร่ ว ง ล่องลอยกลางแดดกรอบ ในทะเลทรายเมฆแห้ง ขณะหนึ่ง คิดถึงเธอ

บทกวีเติบโต

Image
บ ท ก วี เ ติ บ โ ต อย่าง ไม่ มี ขีด จำ กัด .. . . . . . อาจต้องเปลือยกาย ในความจำกัดยิ่ง

มืดเพียงความหมาย

Image
มืดเพียงความหมาย สวนดอกไม้ในห้องสี่เหลี่ยม น้ำดื่มเช่นทะเลคราม เมื่อหลับตา ท้องฟ้าก็โน้มต่ำลงมายังเรา

เสน่ห์น่านเสน่ห์นาน

Image
กลิ่นหอมภูสีครามฟ้าเต็มฟ้า หวานสายลม เสี้ยวดอกขาว แม่น้ำสีเงินระยิบแดด ดาวเพดาน ภาพชีวิตเงียบงามลึกซึ้ง อ่อนโยนถึงเธอนักแล้ว น่าน..นาครรัฐกลางสายน้ำ

ความตายในวัยเยาว์

Image
ย่างมาอย่างเงียบเชียบ เป ราะบางริมชะง่อนผา จู่โจมหนักหน่วง ท่ามกลาง เวิ้ง ว้ าง ตัดปีกวัยหนุ่มเฉียบพลัน ความตายในวัยเยาว์

นักเปลือยใจ

Image
เมตตาเถิด นักเปลือยใจ เสียงร่ำไห้จากบทกวี

มนุษย์

Image
มนุษย์เพิ่งจะเป็นเด็กทารก แต่กลับทุบตีคุณทวดภูเขา ใบหน้าท่านจึงมีริ้วรอยโศกเศร้า มนุษย์เพิ่งจะหัดคว่ำ แต่กลับฉี่รดคุณยายแม่น้ำ ร่างกายของท่านจึงเน่าเหม็น มนุษย์เพิ่งจะหัดคลาน แต่กลับถอนผมของคุณตาแผ่นดินมาขว้างเล่น ศีรษะของท่านจึงเตียนโล้น มนุษย์เพิ่งจะหัดนั่ง แต่กลับขว้างปาคุณน้าดวงจันทร์คุณอาดวงดาว ดาวจึงตกลงทีละดวง ทีละดวง มนุษย์เพิ่งจะหัดเดิน แต่กลับล่ามโซ่ตรวน ให้คุณลุงช้างคุณป้านกกระเรียน ท่านจึงลืมเลือนรอยยิ้มไปแล้ว มนุษย์เพิ่งจะหัดวิ่ง แต่เอื้อมมือไปหยิบกินคุณพ่อดวงอาทิตย์ และกำลังตัดท้องฟ้า ใครหนอ...ขโมยความดีงามของมนุษย์ไป

เทือกเขา

Image
เทือกเขายามเย็น ละเมอในความป่วยไข้ของค่ำคืน คิดถึง คิดถึง คิดถึง เวลาเช้า